ได้ประกาศการอัปเกรดครั้งใหญ่เป็นแล็ปท็อปโมดูลาร์ขนาด 13 นิ้ว ซึ่งขณะนี้มีวางจำหน่ายแล้วพร้อมกับชิปเซ็ต AMD Ryzen เป็นครั้งแรก แล็ปท็อปแบบโมดูลาร์ยังคงเป็นความฝันส่วนใหญ่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และความพยายามหลายครั้งในการนำรุ่นที่อัปเกรดได้ออกสู่ตลาดก็ล้มเหลวอย่างน่าทึ่ง Framework เป็นข้อยกเว้นของกฎ

โดยแล็ปท็อปโมดูลาร์ขนาด 13 นิ้วได้รับคำชมมากมายว่าสามารถซ่อมแซมและอัปเกรดได้ในระดับสูง ด้วยความสำเร็จ บริษัทยังเปิดตัว Chromebook แบบโมดูลาร์เมื่อปีที่แล้ว โดยสัญญาว่าจะอัปเดตอัตโนมัติจนถึงเดือนมิถุนายน 2030แล็ปท็อปโมดูลาร์ขนาด 13 นิ้ว

ของ Framework รุ่นปี 2023 มาพร้อมกับตัวเลือกทั้ง Intel 13th-Gen และ AMD Ryzen 7040 series แล็ปท็อปขนาด 13 นิ้วรุ่นใหม่ที่มี CPU Ryzen สามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้จากเว็บไซต์ Framework โดยชำระเงินมัดจำแบบคืนเงินได้ 100 ดอลลาร์ โดยจะเริ่มจัดส่งในไตรมาสที่ 3 ปี 2023 ปัจจุบันบริษัทจัดส่งไปยังตลาดหลายแห่งทั่วโลก รวมถึงสหรัฐอเมริกา แคนาดา

สหราชอาณาจักร เยอรมนี ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ ออสเตรีย ไอร์แลนด์ และออสเตรเลีย และมีแผนจะขยายไปยังเบลเยียม อิตาลี สเปน

และไต้หวันภายในปีนี้ ราคาสำหรับ Framework Laptop 13 (2023) เริ่มต้นที่ 1,049 ดอลลาร์สำหรับรุ่นสร้างล่วงหน้าด้วย Windows 11 ในขณะที่รุ่น DIY เริ่มต้นที่ 849 ดอลลาร์ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเพิ่มหน่วยความจำ พื้นที่เก็บข้อมูล และระบบปฏิบัติการของตนเอง รวมถึง Linux

 

ซีพียู AMD เป็นส่วนเสริมใหม่ในพอร์ตโฟลิโอของบริษัท เนื่องจากรุ่นที่มีอยู่นั้นนำเสนอด้วยชิป Intel เท่านั้น Framework ยังได้เปิดตัวชุดอัพเกรดสำหรับรุ่นที่มีอยู่ ซึ่งรวมถึง AMD Mainboard ที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถสลับ CPU ของ Intel ในรุ่นปัจจุบันกับโปรเซสเซอร์ AMD ชุดเมนบอร์ด Ryzen 5 เริ่มต้นที่ 449 ดอลลาร์ ในขณะที่ชุดคิท Ryzen 7 เริ่มต้นที่ 669 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม

ผู้ใช้จะต้องอัปเกรดเป็น DDR5 RAM และการ์ด Wi-Fi ใหม่ที่เข้ากันได้กับ AMDในแง่ของฮาร์ดแวร์ แล็ปท็อปรุ่นใหม่มาพร้อมกับโปรเซสเซอร์ Intel 13th-gen Core และ AMD Ryzen 7040

ซึ่งทั้งคู่ได้รับการประกาศในงาน CES 2023 ในเดือนมกราคม โปรเซสเซอร์ที่นำเสนอสำหรับรุ่น Intel คือ i5-1340P, i7-1360P และ i7-1370P ในขณะที่รุ่น AMD สามารถกำหนดค่าด้วยชิป Ryzen 5 หรือ Ryzen 7

ระบบ Intel จะรองรับได้สูงสุด DDR4-3200 RAM ในขณะที่ระบบ AMD จะรองรับหน่วยความจำสูงสุด DDR5-5600 รุ่นใหม่จะมาพร้อมกับแบตเตอรี่สูงสุด 61Wh

ซึ่งใหญ่กว่ารุ่นปีที่แล้วและ Framework กล่าวว่าจะยังคงความจุ 80 เปอร์เซ็นต์แม้หลังจากชาร์จซ้ำ 1,000 รอบ Framework ยังอ้างว่าสิ่งนี้จะช่วยปรับปรุงอายุการใช้งานแบตเตอรี่ 20 – 30 เปอร์เซ็นต์ในกรณีการใช้งานจริง ทั้งในสภาพแวดล้อม Windows และ Linux

สามารถติดตามข่าวสารได้ที่ https://umldigitalops.com/