ผู้ปกครองแจ้งความเอาผิด “ครูติวเตอร์” ใช้ไม้ตีเด็กจนเป็นแผลฟกช้ำ เหตุท่องคำศัพท์ไม่ได้

ด้านครูชี้แจงเป็นการลงโทษที่ไม่ได้ใช้อารมณ์ และเป็นไปตามข้อตกลงกับผู้ปกครองและเด็ก เพื่อดึงศักยภาพเด็กออกมา ตำรวจเร่งดูกฎหมายผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กหรือไม่

ที่ สภ.เมืองสตูล แม่วัย 35 ปี พาบุตรสาววัย 9 ขวบ เข้าให้ปากคำต่อตำรวจ หลังจากที่ได้แจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้ถึงพฤติกรรมครูสอนติวเตอร์แห่งหนึ่งที่ใช้ไม้เรียวฟาดเด็กเพื่อลงโทษถึง 11 ครั้ง จนเป็นแผลเขียวช้ำ สร้างความปวดร้าวใจให้แก่คนเป็นแม่ที่สงสารลูกจับใจ โดยบอกว่าตนไม่เคยเลี้ยงทุบตีบุตรตลอดที่เลี้ยงดูมา

พ.ต.ท.ภรากรณ์ จันทะโชติ สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสตูล เจ้าของคดีบอกว่า วันนี้ทางตำรวจรับเรื่องสอบปากคำผู้เสียหาย รับคดีแล้ว ส่วนตัวเด็กจะมีการสอบผ่านนักจิตวิทยา ซึ่งเรื่องนี้ต้องดูว่ากระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กหรือไม่ ซึ่งต้องเรียกคุณครูมาสอบปากคำอีกครั้ง ส่วนการทำร้ายร่างกายเด็กก็ถือว่าเป็นที่ชัดเจนอยู่แล้ว โดยทางแพทย์ระบุว่า บาดแผลมีร่องรอยฟกช้ำ รักษาไม่เกิน 1 วัน ส่วนทางด้านจิตใจทางแม่ให้การว่า เด็กนอนละเมอหลังถูกตี ทำให้ยังไม่ได้ตั้งข้อกล่าวหาโดยต้องดูข้อกฎหมายก่อน เพราะเป็นคดีแรกๆ ของ จ.สตูล ไม่เคยเกิดเหตุลักษณะนี้มาก่อน

ด้านครูจูน ที่เปิดติวเตอร์ ได้ชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าได้ตีเด็กจริง แต่เป็นการลงโทษตามที่เคยได้ตกลงไว้กับผู้ปกครอง และเด็กว่าหากทำไม่ได้ต้องลงโทษ ซึ่งการลงโทษเริ่มตั้งแต่ด้วยวาจา การเขกโต๊ะ การวิ่งรอบสนาม และการตี ซึ่งเป็นการไต่ระดับเพื่อให้เด็กมีระเบียบวินัย โดยกรณีนี้ได้มอบให้น้องวัย 9 ขวบ ไปท่องศัพท์ภาษาอังกฤษ จำนวน 60 คำ ภายใน 3 เดือน โดยให้ซ้อมทำทุกวันก่อนจะนัดส่งการบ้าน โดยย้ำว่าหากไม่ต้องการถูกลงโทษด้วยการตีคำละ 1 ที การตีในครั้งนี้ไม่ได้ใส่อารมณ์ความรู้สึกไป ตีเสร็จก็ยังบอกกับผู้ปกครองน้องเลยว่าได้ลงโทษด้วยการตี 11 ครั้ง ซึ่งก็เป็นข้อตกลงกันด้วยวาจาก่อนเริ่มการสอนว่าต้องทำโทษเด็กด้วยการตีได้ด้วย เพื่อสร้างวินัยให้แก่เด็ก และยินดีรับฟังในคำติชม หากจะให้ปรับปรุงในการสอน

 

ซึ่งการตีน้องในวันนั้นร่วมกับเพื่อนด้วยอีก 3 คนที่ถูกทำโทษ ซึ่งการใช้วิธีการนี้ที่ผ่านมาก็ทำให้เด็กมีระเบียบวินัยที่จะทำได้มากขึ้น เพราะหากเด็กจำคำศัพท์ไม่ได้ก็ไม่สามารถอ่านออกเขียนได้ หลังสร้างความไม่สบายใจให้แก่คุณแม่ และผู้ปกครองน้อง ก็เข้าใจในความรู้สึก แต่ยืนยันการทำหน้าที่ในกรอบของความเป็นครูในวิชาชีพ ที่ต้องการให้เด็กได้ดี และดึงศักยภาพเด็กออกมาให้มากที่สุด

ด้านผู้ปกครองคนอื่นๆ ที่ทราบข่าว และมีบุตรหลานเรียนที่ติวเตอร์แห่งนี้ ยอมรับกับสื่อมวลชนว่า บุตรของตนก็ถูกครูตีเป็นแผลเขียวช้ำเหมือนกัน เมื่อสอบถามว่าสาเหตุเกิดจากลูกผิด และไม่ทำตามที่ครูบอกใช่หรือไม่ ก็ยอมรับในบทลงโทษ และเห็นว่าการสอนด้วยการตีทำให้เด็กมีวินัย และระเบียบมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญการเรียนของเด็กก็ดียิ่งขึ้น

(ขอบคุณรูปภาพจาก  MGR online)

 

ติดตามข่าวสารต่างๆ ได้ที่  umldigitalops.com