นักท่องเที่ยวแห่กิน บาร์บีคิวจือปั๋ว กันอย่างคึกคัก

บาร์บีคิวจือปั๋ว  ใน”จือปั๋ว” (Zibo) ที่เป็นนครระดับจังหวัดทางตอนกลางของมณฑลชานตง เมืองอุตสาหกรรมที่เงียบสงบซึ่งมีประชากร 4.7 ล้านคนทางตะวันออกของจีน มักไม่เป็นที่รู้จักในฐานะแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม แต่เมื่อไม่นานมานี้ หลายคนต้องตกตะลึงกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนอย่าง ‘หนาแน่น’ ทำให้ทั้งตั๋วรถไฟความเร็วสูง และห้องพัก ถูกจองจนเต็ม

อาหารที่นิยมของชาวจีน

บาร์บีคิวปิ้งย่างเป็นอาหารอร่อย ซึ่งได้รับความนิยมจากชาวจีน โดยเฉพาะหนุ่มสาววัยรุ่น เมื่อเร็วๆ นี้ ปิ้งย่างในเมืองจือโป๋ ซึ่งเป็นเมืองเล็กแห่งหนึ่งในมณฑลซานตง โด่งดังขึ้นมาบนอินเตอร์เน็ต และเรียกความสนใจจากผู้คนอย่างมาก นักท่องเที่ยวจากท้องที่ต่างๆ ทั่วประเทศจำนวนมหาศาลนั่งรถไฟความเร็วสูงเดินทางไปยังเมืองจือโป๋ แล้วเข้าคิวกันเป็นเวลา 3-4 ชั่วโมง ก็เพื่อสัมผัสกับปิ้งย่าง บาร์บีคิวจือปั๋ว ลักษณะท้องถิ่นนั้นอย่างเดียว

ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ทางการเมืองจือโป๋เคยคาดว่า ช่วงหยุดยาววันแรงงานสากลปีนี้ เมืองจือโป๋อาจจะรับนักท่องเที่ยวกว่า 120,000 คน ตัวเลขนี้คงจะไม่นับเป็นตัวเลขใหญ่สำหรับเมืองใหญ่อย่างกรุงปักกิ่งหรือนครเซี่ยงไฮ้ แต่สำหรับเมืองจือโป๋ ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวเพียง 70 แห่ง และโรงแรมระดับดาวทั้งหมดไม่ถึง 30 แห่งนั้น ต้องเป็นการทดสอบครั้งใหญ่ต่อความสามารถการรับนักท่องเที่ยว

ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมปีนี้ ปิ้งย่างบาร์บีคิว เมืองจือโป๋โด่งดังขึ้นมาบนเน็ตอย่างรวดเร็ว ช่วงสองเดือนที่ผ่านมานี้ ร้านปิ้งย่างที่เมืองจือโป๋รับนักท่องเที่ยวมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง บางร้านได้รับความนิยมมากเกิน โดยบ่าย 4 โมงก็มักจะมีคนรอคิวเพื่อกินอาหารเย็นแล้ว

บาร์บีคิวจือปั๋ว เป็นที่นิยมจนขาดแคลนพ่อครัว

เนื่องจากปิ้งย่างที่เมืองจือโป๋ได้รับความชื่นชอบเหลือเกิน จึงเกิดการขาดแคลนพ่อครัวปิ้งย่างในท้องถิ่นอย่างหนัก ช่วงที่ผ่านมานี้ ร้านปิ้งย่างจำนวนไม่น้อยต่างประกาศรับจ้างพ่อครัวปิ้งย่างด่วน โดยให้เงินเดือน 5,000-10,000 หยวน แต่อาชีพนี้ต้องมีฝีมือค่อนข้างดีและต้องทนความร้อนของเตาตลอด ขณะที่อากาศร้อนอยู่แล้ว ผู้ที่ยอมทำงานนี้จึงมีจำนวนไม่มาก พอครัวที่ฝีมือเก่งๆ จึงยิ่งยากที่จะหาได้

ช่วงหยุดยาววันแรงงานสากลปีนี้ ขณะที่สถานการณ์โควิดดีขึ้น และทางการจีนออกนโยบายต่างๆ เพื่อส่งเสริมการบริโภคอย่างมีพลัง ตลาดท่องเที่ยวของจีนจึงมีการฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวที่มีลักษณะโดดเด่น จะได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น สถิติที่เกี่ยวข้องระบุว่า ช่วงหยุดยาว 7 วันที่ผ่านมานี้ เมืองที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่โดยสารรถไฟ 5 อันดับแรกได้แก่ กรุงปักกิ่ง นครเซี่ยงไฮ้ เมืองเฉิงตู นครฉงชิ่ง และเมืองจือโป๋

ความโด่งดังขึ้นของปิ้งย่าง บาร์บีคิวจือปั๋ว เมืองจือโป๋ ก็ทำให้ตลาดท่องเที่ยวและการบริโภคในเมืองนี้มีความคึกคักอย่างยิ่ง สถิติที่เกี่ยวข้องแสดงว่า ถึงกลางเดือนเมษายน ใบจองที่พักโรงแรมที่มณฑลซานตงในช่วงหยุดยาววันแรงงานสากลปีนี้เพิ่มขึ้น 4 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2019 ในจำนวนนี้ ใบจองที่พักโรงแรมเมืองจือโป๋เพิ่มขึ้นประมาณ 8 เท่า

แต่นักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาลในเวลาเดียวกัน ก็จะนำปัญหาสู่เมืองจือโป๋ในระดับหนึ่ง สถิติระบุว่า ปัจจุบัน ในเมืองจือโป๋มีร้านปิ้งย่างทั้งหมดกว่า 1,270 แห่ง  ถึงปี 2021 เมืองจือโป๋มีรถยนต์ประเภทขนส่งผู้โดยสารเพียง 12,795 คัน มีสถานที่ท่องเที่ยว 70 แห่ง บริษัทท่องเที่ยว 112 แห่ง และโรงแรมระดับดาว 27 แห่ง

       สิ่งที่คาดหมายได้คือ การที่นักท่องเที่ยวเข้าสู่เมืองจือโป๋เป็นจำนวนมากในระยะสั้น ต้องทำให้ระบบคมนาคมขนส่งในเมืองนี้เผชิญกับแรงกดดันอย่างหนัก คงต้องเกิดปัญหาจราจรติดขัดเนื่องจากความหนาแน่นของฝูงชน นักท่องเที่ยวที่ขับรถเองคงต้องลำบากมากในการหาที่จอดรถ ในร้านอาหารต่างๆ ก็คงต้องพบผู้คนที่รอคิวเป็นเวลานาน

เมืองจือโป๋เคยเป็นเมืองอุตสาหกรรมในประวัติศาสตร์ของจีน เมื่อทศวรรษ 1990 จีดีพีของเมืองจือโป๋เคยเข้า 3 อันดับแรกในมณฑลซานตง แต่ช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมานี้ เศรษฐกิจเมืองจือโป๋มีการพัฒนาอย่างล่าช้า ถึงปี 2022 จีดีพีเมืองจือโป๋ลดต่ำลงเหลืออันดับที่ 7 ของมณฑลซานตง

       แต่หลังจากปิ้งย่างเมืองจือโป๋โด่งดังขึ้นมาอย่างฉับพลันนี้ ทำให้ชาวจือโป๋ตั้งความหวังให้ตลาดบ้านเกิดฟื้นฟูความคึกคักคืนมา มีชาวท้องถิ่นระบุว่า เพื่อสร้างความประทับใจที่ดีแก่นักท่องเที่ยวจากต่างถิ่น เขาตั้งใจไปเก็บขยะตามถนนระหว่างเดินทางกลับบ้านหลังเลิกงาน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เห็นความสะอาดสะอ้านของเมืองจือโป๋ ยังมีพลเมืองจือโป๋บอกว่า หลังจากได้พบเห็นนักท่องเที่ยวต่างถิ่นที่รอคิวเข้าร้านปิ้งย่าง บาร์บีคิวจือปั๋ว เป็นจำนวนมาก เขาจึงสมัครไปทำงานบริการในร้านเป็นเวลาหลายชั่วโมง

เพื่อแสดงภาพพจน์ที่ดีงามของเมือง ทางการเมืองจือโป๋ก็ได้ใช้ความพยายามมากยิ่ง เช่น จัดวางกลุ่ม “อาสาสมัครปิ้งย่าง” ที่สถานีรถไฟ เพื่อให้บริการปรึกษาแก่นักท่องเที่ยว ยังได้จัดทำ “แผนที่นำทางปิ้งย่างเมืองจือโป๋” และเพิ่มเส้นทาง “รถประจำทางสายปิ้งย่าง” อีก 21 สาย ซึ่งครอบคลุมถึงร้านปิ้งย่างยอดนิยมทั้งหมดในตัวเมือง

       สำนักงานวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวเมืองจือโป๋ยังมีการแจกของที่ระลึกและของขวัญชนิดต่างๆ แก่ผู้โดยสารบนรถไฟ เพื่อโฆษณาวัฒนธรรมปิ้งย่างของเมืองจือโป๋ นอกจากนี้ ตลาดต่างๆ และถนนทุกสายในเมืองยังได้รับการทำความสะอาดทุกวันทุกคืนอย่างไม่ขาดสาย สำนักงานกำกับดูแลตลาดเมืองจือโป๋ยังประกาศข้อกำหนดที่เข้มงวดเพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของนักท่องเที่ยวอย่างรอบด้าน

บาร์บีคิวจือปั๋ว

รายงานข่าวจาก บีบีซี

บีบีซี รายงานกระแสฮือฮาบนโลกโซเชียลหลังนักท่องเที่ยวชาวจีนแห่ไปเที่ยว เมืองจือปั๋ว มณฑลชานตง ทางตะวันออก เพื่อลิ้มลองรสชาติของ บาร์บีคิวจือปั๋ว แสนอร่อยที่กำลังโด่งดังและทำให้การท่องเที่ยวในเมืองจือปั๋วครึกครื้นจนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม

เมืองจือปั๋วเป็นเมืองที่อุตสาหกรรมซบเซา มีประชากรราวๆ 4.7 ล้านคน และมักไม่เป็นที่รู้จักในฐานะแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม แต่เมื่อนายจาง ชาวเมืองจือปั๋วเดินทางกลับบ้านเพื่อร่วมงานแต่งงานเมื่อเดือนที่แล้ว เขาก็ต้องตกตะลึงกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นมาอย่างผิดหูผิดตา

นายจางกล่าวกับบีบีซีอีกว่า “การกลับไปบ้านเกิดไม่เคยเป็นปัญหามาก่อน แต่ครั้งนี้ผมไม่สามารถสัญญากับเพื่อนได้ว่าผมจะจัดหาตั๋วรถไฟความเร็วสูงให้พวกเขาหรือรับประกันการจองห้องพักในโรงแรมได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการหาร้านอาหารบาร์บีคิวเลย มันเป็นเรื่องที่ยากมาก”

เมืองจือปั๋วเป็นศูนย์กลางของความคลั่งไคล้ในโซเชียลมีเดีย ตั้งแต่จีนปลดมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ในเดือนมกราคม นักท่องเที่ยวในประเทศหลายล้านคนเดินทางมายังเมืองจือปั๋วซึ่งก่อนหน้านี้ไม่ค่อยมีใครรู้จัก กระทั่งได้รับอิทธิพลจากบรรดาอินฟลูเอนเซอร์ที่แวะเวียนมาเที่ยวเมืองจือปั๋ว ถึงอย่างนั้นสิ่งที่ดึงดูดผู้คนมากที่สุดคือ บาร์บีคิวเสียบไม้ราคาถูกเพียง แค่ไม้ละ 2 หยวน หรือประมาณ 10 บาท

ผู้ใช้รายหนึ่งโพสต์วิดีโอพร้อมเขียนแคปชั่นว่า “มีการร้องคาราโอเกะแบบกลางแจ้ง ทุกคนรับประทานอาหารอย่างอิ่มเอมและร้องเพลงกันสนุกสนาน” บาร์บีคิวเป็นหนึ่งในอาหารโปรดของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางตอนเหนือและทางตะวันตกของจีน บาร์บีคิวทั่วไปจะประกอบไปด้วยเนื้อสัตว์หมักและผักเสียบบนไม้ นำไปย่างบนถ่าน

บาร์บีคิวจือปั๋ว ดังบนโลกออนไลน์

แฟนบาร์บีคิวกำลังแห่กันไปเมืองจือปั๋ว มณฑลซานตงทางภาคตะวันออกของจีน ร้านบาร์บีคิวทุกร้านในเมืองจือปั๋วให้บริการเตาในแต่ละโต๊ะ เนื้อสุกแบบปานกลางจะถูกนำมาปรุงในเตาจนสุกแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ จากนั้น ใช้แผ่นแป้งบางห่อเนื้อที่ย่าง และใส่หัวหอมเขียวชานตงเพื่อช่วยลดความมันของอาหาร นอกเหนือจากอาหาร ความคึกคักของร้านบาร์บีคิวยังเพิ่มประสบการณ์ที่น่าประทับใจในการรับประทานอาหารด้วย
บาร์บีคิวที่มีเสน่ห์ดึงดูดลูกค้ามากมาย เฉิน ชูวินบิน เจ้าของร้านบาร์บีคิวกล่าวว่า “ฉันต้องเตรียมเนื้อแกะมากกว่า 30 กิโลกรัม และหมูมากกว่า 100 กิโลกรัมทุกวัน” สำหรับนักท่องเที่ยวในประเทศจีน เมืองจือปั๋วได้เปิดเส้นทางไปกลับ “ทัวร์บาร์บีคิว” ระหว่างเมือง รถบัสบาร์บีคิวในเมืองและรถรับส่งฟรีที่พานักท่องเที่ยวไปทานบาร์บีคิว

ชาวเมืองจือปั๋วส่วนใหญ่นิยมกินบาร์บีคิวกับแป้งแพนเค้กบางๆ และต้นหอม คนดังบนโลกออนไลน์บางคนเรียกเมืองจือปั๋วว่า “เมืองหลวงแห่งบาร์บีคิวกลางแจ้งของจีน” กับจำนวนร้านบาร์บีคิวมากกว่า 1,270 แห่งในเมืองตามคำกล่าวของประธานสมาคมบาร์บีคิวแห่งเมืองจือปั๋ว

บาร์บีคิวจือปั๋ว ติดเทรนด์บนเสี่ยวหงชูและเว่ยป๋อ สื่อโซเชียลยักษ์ใหญ่ของจีน ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม ในช่วงเดือนนั้นเมืองจือปั๋วมีผู้คนหนาแน่นเพิ่มขึ้นจากเดิมสองเท่า และเมื่อวันที่ 29 เม.ย. สถานีรถไฟจือปั๋วมีรถไฟวิ่งเข้าและออกจากสถานีเป็นประวัติการณ์ถึง 87,000 เที่ยวตามรายงานจากเว็บไซต์ข่าวไซซินของจีน

นอกจากนี้ในเมืองยังมีอัตราการเข้าพักห้องพักโรงแรมสูงสุดแห่งหนึ่งของประเทศในช่วงวันหยุดสัปดาห์ทอง ในสัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคม กระทรวงการท่องเที่ยวของจีนเผยว่าการท่องเที่ยวภายในประเทศดีดตัวขึ้นเหนือระดับก่อนเกิดโรคระบาดในช่วงสัปดาห์ทอง ด้วยจำนวนการท่องเที่ยวถึง 274 ทริป ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 20 สูงขึ้นกว่าในปี 2562

ด้านหน่วยงานท้องถิ่นเร่งรับมือกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลกันเข้ามาอย่างรวดเร็ว โซนบาร์บีคิวรองรับนักท่องเที่ยวได้ถึง 10,000 คน แถมยังมีการแสดงดนตรีสดที่ถูกจัดขึ้นในช่วงกลางคืนด้วย

ส่วนอาสาสมัคร รวมถึงเด็กๆ ชั้นอนุบาล ถูกส่งไปยังสถานีรถไฟเพื่อต้อนรับ รวมถึงให้คำแนะนำแก่นักท่องเที่ยว ในขณะที่พิพิธภัณฑ์ต่างๆ ขยายเวลาเปิดทำการ และมีการเพิ่มจุดหมายปลายทางของรถประจำทาง-รถไฟให้มีการนำนักท่องเที่ยงไปยังโซนฮิตอย่างร้านบาร์บีคิว เป็นต้น

ขณะที่โลกออนไลน์ของจีนกำลังตั้งชื่อเรียกให้กับเมื่องจือปั๋วว่าเป็น “เมืองหลวงของบาร์บีคิวกลางแจ้ง” ซึ่งจากข้อมูลของประธานสมาคมบาร์บีคิวจือปั๋ว ระบุว่าเมืองนี้เต็มไปด้วยร้านบาร์บีคิวมากกว่า 1,270 แห่ง

มีการคาดการณ์ว่าความนิยมของบาร์บีคิวจือปั๋ว เริ่มขึ้นในปีที่แล้ว เมื่อนักศึกษามหาวิทยาลัยมากกว่า 10,000 คนจากหลายเมือง ถูกส่งไปกักตัวที่เมืองจือปั๋ว หลังจากที่พวกเขาได้รับการปล่อยตัว ทางการได้เลี้ยงพวกเขาด้วยการปิ้งย่างบาร์บีคิว และเชิญชวนให้พวกเขากลับมาเที่ยว “ในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ดอกไม้บานสะพรั่ง” หลายคนตอบรับคำเชิญนั้น ทำให้แฮชแท็กเกี่ยวกับการเดินทางของพวกเขาบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเริ่มถูกแชร์อย่างแพร่หลาย และโด่งดังในที่สุด

บาร์บีคิวจือปั๋ว ฮิตแค่ไหน สามารถดูได้จากยอดการใช้ไฟฟ้า

เมื่อพูดถึงอาหารเลิศรส บาร์บีคิวของเมืองจือปั๋วได้เป็นที่นิยมและกลายเป็น “สุดฮอต” ขึ้นมาในฤดูใบไม้ผลิปีนี้ บาร์บีคิวของจือปั๋วฮิตขนาดไหน เราสามารถดูได้จากยอดการใช้ไฟฟ้า

“ยอดการใช้ไฟฟ้านี้พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจริงๆ” คุณจู เหวินปิง เจ้าของร้านกิจการบาร์บีคิวที่ฟู้ดพลาซ่าจือปั๋วซินเทียนฉีกล่าวว่า ปริมาณการใช้ไฟฟ้าของร้านเขาจาก 1,000 กิโลวัตต์-ชั่วโมงเพิ่มขึ้นเป็น 2,000 กิโลวัตต์-ชั่วโมงได้ใช้เวลานานถึง 11 ปี แต่จาก 2,000 กิโลวัตต์-ชั่วโมงเพิ่มขึ้นเป็น 3,000 กิโลวัตต์-ชั่วโมงนั้นใช้เวลาเพียง 1 เดือนเท่านั้น

แล้วทำไมจึงมีการใช้ปริมาณไฟฟ้าไปมากขนาดนี้ คุณจูกล่าวว่า “เตาที่ใช้ทำบาร์บีคิวส่วนหนึ่งได้เปลี่ยนจากเตาถ่านมาเป็นเตาไฟฟ้า และจำนวนโต๊ะรับลูกค้าจากเดิม 60 โต๊ะได้เพิ่มเป็น 200 โต๊ะในปัจจุบัน และในแต่ละวันมีจำนวนความต้องการบาร์บีคิวมากถึง 10,000 ไม้”

ทั้งนี้ ฟู้ดพลาซ่าจือปั๋วซินเทียนฉีที่คุณจูตั้งร้านอยู่นั้น มียอดการใช้ไฟฟ้าในเดือนมีนาคมมากถึง 37,000 กิโลวัตต์-ชั่วโมง เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ และเมื่อไม่นานมานี้ หม้อแปลงไฟฟ้าขนาด 250 KVA. เครื่องใหม่ได้ถูกติดตั้งขึ้นที่ฟู้ดพลาซ่า คุณหลี่ จุ้นหัว ผู้จัดการทั่วไปของฟู้ดพลาซ่ากล่าวอย่างเชื่อมั่นว่า ผู้ประกอบการทุกคนสามารถขยายกิจการโดยไม่ต้องกังวลปัญหาแหล่งจ่ายไฟแล้ว

  • การรับมือกับกระแสนักท่องเที่ยวนับแสนคนที่หลั่งไหลมาอย่างต่อเนื่องก็ไม่ใช่เรื่องง่าย หลายครั้งก็มีภาพขอบรรดาเจ้าของร้านออกมาโค้งตัวก้มหัวขอโทษลูกค้าที่ไม่สามารถให้บริการต่อได้เนื่องจากพื้นที่ในร้านอาหารถูกจับจองจนเต็ม ส่วนพนักงานร้านอาหารได้นอนเพียงวันละ 4 ชั่วโมงเพราะต้องตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างเต็มที่ รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกในเมืองเล็กๆที่อาจไม่เพียงพอต่อนักท่องเที่ยวทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านส่วนใหญ่ดูมีความสุขกับการที่นักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามา และรู้สึกภูมิใจที่บ้านเกิดของพวกเขาได้รับชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศ

 

ที่มา

https://www.khaosod.co.th/

https://www.nationtv.tv/

http://thai.yunnangateway.com/

สำนักข่าวซินหัว (หู ลี่เซียน/แปล , โอภาส เหลืองดาวเรือง/พิสูจน์อักษร)

https://thai.cri.cn/

http://37tpi.sinclairandruiz.com/

https://www.thairath.co.th/news/foreign/

 

ติดตามอ่านเรื่องราวรอบโลกได้ที่  umldigitalops.com